ผลิตภัณฑ์หมามุ่ย ผลงานวิจัยม.เกษตร
ผลิตภัณฑ์หมามุ่ย ผลงานวิจัยม.เกษตร
ในปีพ.ศ.2555 นายธนโชติ ธรรมชาติ
นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสุวรรณวาจกกสิกิจเพื่อการค้นคว้าและพัฒนาปศุสัตว์และ
ผลิตภัณฑ์สัตว์ (ปัจจุบันคือสำนักงานวิจัยวิทยาเขตกำแพงแสน)
มหาวิทยาบัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ได้นำเมล็ดหมามุ่ยจากอินเดียเข้ามาทำการเพาะปลูกและวิจัยเชิงพาณิชย์ที่
สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯ และทำการวิจัยที่สถานที่ผลิตยาสมุนไพร
สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯ
หมามุ่ยดังกล่าวมีชื่อว่า Mucuna pruriens (L)DC. Var Utilis
หรือถั่วเวลเวท (Velvet bean)
ซึ่งลักษณะลำต้นจะมีความคล้ายกับหมามุ่ยสายพันธุ์ไทยแต่แตกต่างที่ลักษณะของ
เมล็ดมีขนาดใหญ่ ขนสั้น และไม่คันเวลาสัมผัสมีเมล็ดสี 2 ลักษณะ คือ
สีขาวและสีดำ
แต่หมามุ่ยสายพันธุ์ไทยจะมีฝักขนาดเล็กและขนฝักมีขนาดยาวและจะมีความคัน
เมื่อสัมผัสถูกขนฝัก มีทั้งเมล็ดที่มีขนาดเล็กและใหญ่
แต่ตะมีสีดำแค่เพียงสีเดียวหมามุ่ยที่ถูกนำมาปลูกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
และทางภาคตะวันออกของอินเดีย
คนแถบบริเวณพื้นที่สูงของประเทศอินเดียรับประทานถั่วชนิดนี้มานานแล้ว
โดยนำเมล็ดที่แก่มาต้มให้สุก
หากกินเป็นเมล็ดดิบจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากขึ้น ผิวหนังอักเสบ
อาเจียน และท้องเสียได้
การใช้ประโยชน์เมล็ดหมามุ่ยเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์จึงต้ระวังเรื่องความ
เป็นพิษ โดยต้องเตรียมทำการต้มหรือคั่วให้สุก แช่น้ำแบบถ่าบน้ำหลายๆครั้ง
ในเมล็ดหมามุ่ยประกอบไปด้วยสารสำคัญคือ
สาร L-Dopa, Levodopa ซึ่งเป็น aromatic non – protein amino acid
และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท Dopamine
ที่มีอิทธิพลต่อระบบการสืบพันธุ์ มีผลทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้น
ชักนำให้เกิดความถี่ในการผสมพันธุ์ได้ดี
รวมทั้งยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศได้
และยังได้ถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสันอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น