หมามุ่ยเป็นพืชเถาซึ่งมีขนคันบริเวณฝัก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mucuna
pruriens (L.) DC. ตาม สรรพคุณพื้นบ้านนั้น
เมล็ดของหมามุ่ยถูกนำมาใช้ในตำรับยาไทยมาช้านานในการรักษาโรคบุรุษ และมีความเชื่อว่าสามารถใช้เป็นยากระตุ้นกำหนัดได้ การ
วิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ของหมามุ่ยต่อสมรรถภาพทางเพศในสัตว์ทดลองพบว่า
การป้อนหนูแรทเพศผู้ด้วยสารสกัดเอทานอลเมล็ดหมามุ่ยที่ความเข้มข้น 200
มก./กก.ของน้ำหนักตัว วันละครั้ง เป็นเวลา 21 – 45 วัน
สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของหนูได้
กล่าวคือมีผลทำให้พฤติกรรมทางเพศของหนูเปลี่ยนไป
โดยมีพฤติกรรมการจับคู่และการขึ้นคร่อมตัวเมียถี่ขึ้น
และมีระยะเวลาในการเริ่มสอดใส่อวัยวะเพศครั้งแรกจนหลั่งน้ำเชื้อ
(ejaculation latency, EL) นานขึ้น
นอกจากนี้การศึกษาทางคลินิกในประเทศอินเดียกับอาสาสมัครเพศชายที่มีภาวะ
จำนวนสเปิร์มน้อย และสเปิร์มมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยให้
อาสาสมัครดื่มนมที่ผสมกับผงบดเมล็ดหมามุ่ยขนาด 5 กรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 3
เดือน พบว่า ค่าความเข้มข้นของสเปิร์ม
และการเคลื่อนไหวของสเปิร์มเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
และมีค่าเกือบเทียบเท่ากับอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมล็ดหมามุ่ยมีประสิทธิภาพในการช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำ
เชื้อให้ดีขึ้นได้
แต่ก็เป็นที่น่าสนใจว่าเมื่อนำผงบดของเมล็ดหมามุ่ยมาทดลองในหนูแรทเพศเมีย
กลับมีผลทำให้พฤติกรรมทางเพศมีแนวโน้มลดลง กล่าวคือ
มีพฤติกรรมการจับคู่กับหนูตัวผู้ลดลง
และปฏิเสธการรับการผสมพันธุ์จากหนูตัวผู้
แสดงให้เห็นว่าการรับประทานเมล็ดหมามุ่ยอาจให้ผลแตกต่างในระหว่างเพศชายและ
หญิง
แม้ว่าจะมีงานวิจัยรองรับถึงฤทธิ์เพิ่มคุณภาพของน้ำเชื้อในบุรุษของเมล็ด
หมามุ่ย แต่ก็มีไม่มากนัก และหมามุ่ยยังแบ่งได้เป็นอีกหลายสายพันธุ์
(Varieties) โดยใช้ชื่อวิทยาศาสตร์เดียวกัน
ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีรายงานที่ระบุถึงความแตกต่างเกี่ยวกับฤทธิ์ทาง
เภสัชวิทยาที่แน่ชัดของแต่ละสายพันธุ์
สำหรับในประเทศไทยสายพันธุ์ที่พบจะเป็นกลุ่มไม้ป่า Mucuna pruriens (L.)
DC. Cultivar group Pruriens ซึ่งจะมีขนพิษปกคลุมที่ฝัก
ทำให้เกิดอาการคันเมื่อสัมผัส ส่วนกลุ่มที่เป็นไม้ปลูก Mucuna pruriens
(L.) DC. Cultivar group Utillis จะไม่มีขนพิษที่ฝัก
ไม่มีการปลูกในประเทศไทย นอกจากนี้ในเมล็ด
ของหมามุ่ยจะมีสาร L-dopa หรือ L-3,4- dihydroxyphenylalanine
อยู่ปริมาณสูง ซึ่งถูกนำมาผลิตเพื่อการค้าในการรักษาโรคพาร์กินสัน สาร
L-dopa นี้ เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาท dopamine
ซึ่งมีผลต่อสมองส่วนต่างๆ ในหลายเส้นทาง โดยเฉพาะการควบคุมการเคลื่อนไหว
และยังมีผลทำให้ความดันโลหิตต่ำลง
การรับประทานในปริมาณที่มากอาจมีผล เสียต่อร่างกาย
ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บหมามุ่ยมารับประทานเอง
จนกว่าจะได้รับการยืนยันถึงสายพันธุ์ที่ใช้ทดสอบ
และมีการศึกษาถึงความเป็นพิษในคนที่แน่ชัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น