วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผลิตภัณฑ์หมามุ่ย ผลงานวิจัยม.เกษตร





ผลิตภัณฑ์หมามุ่ย ผลงานวิจัยม.เกษตร

    ในปีพ.ศ.2555 นายธนโชติ ธรรมชาติ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสุวรรณวาจกกสิกิจเพื่อการค้นคว้าและพัฒนาปศุสัตว์และ ผลิตภัณฑ์สัตว์ (ปัจจุบันคือสำนักงานวิจัยวิทยาเขตกำแพงแสน) มหาวิทยาบัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้นำเมล็ดหมามุ่ยจากอินเดียเข้ามาทำการเพาะปลูกและวิจัยเชิงพาณิชย์ที่ สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯ และทำการวิจัยที่สถานที่ผลิตยาสมุนไพร สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯ หมามุ่ยดังกล่าวมีชื่อว่า Mucuna pruriens (L)DC. Var Utilis หรือถั่วเวลเวท (Velvet bean) ซึ่งลักษณะลำต้นจะมีความคล้ายกับหมามุ่ยสายพันธุ์ไทยแต่แตกต่างที่ลักษณะของ เมล็ดมีขนาดใหญ่ ขนสั้น และไม่คันเวลาสัมผัสมีเมล็ดสี 2 ลักษณะ คือ สีขาวและสีดำ แต่หมามุ่ยสายพันธุ์ไทยจะมีฝักขนาดเล็กและขนฝักมีขนาดยาวและจะมีความคัน เมื่อสัมผัสถูกขนฝัก มีทั้งเมล็ดที่มีขนาดเล็กและใหญ่ แต่ตะมีสีดำแค่เพียงสีเดียวหมามุ่ยที่ถูกนำมาปลูกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และทางภาคตะวันออกของอินเดีย คนแถบบริเวณพื้นที่สูงของประเทศอินเดียรับประทานถั่วชนิดนี้มานานแล้ว โดยนำเมล็ดที่แก่มาต้มให้สุก หากกินเป็นเมล็ดดิบจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากขึ้น ผิวหนังอักเสบ อาเจียน และท้องเสียได้
    การใช้ประโยชน์เมล็ดหมามุ่ยเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์จึงต้ระวังเรื่องความ เป็นพิษ โดยต้องเตรียมทำการต้มหรือคั่วให้สุก แช่น้ำแบบถ่าบน้ำหลายๆครั้ง
    ในเมล็ดหมามุ่ยประกอบไปด้วยสารสำคัญคือ สาร L-Dopa, Levodopa ซึ่งเป็น aromatic non – protein amino acid และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท Dopamine ที่มีอิทธิพลต่อระบบการสืบพันธุ์ มีผลทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้น ชักนำให้เกิดความถี่ในการผสมพันธุ์ได้ดี รวมทั้งยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศได้ และยังได้ถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสันอีกด้วย

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น

    Category 5

    Category 6 (Carousel)